ผลแบบนี้มันดีกับทีมอื่นที่ลุ้นท็อปโฟร์กันอยู่โดยแท้ แต่ก็เรียกว่าสมราคาในเกมนี้กันแล้วเมื่ออาร์เซนอลสู้กับเอฟเวอร์ตันแบบถึงพริกถึงขิงงัดกระบวนท่ากันออกมาหมด สุดท้ายไม่มีใครทำประตูได้เสมอกัน 0-0 "ปืนใหญ่" มีเพิ่มเป็น 60 คะแนน ส่วนเอฟเวอร์ตันขยับขึ้น 56 คะแนน
พรีเมียร์ ลีก
วันอังคารที่ 16 เมษายน 2556
อาร์เซนอล 0 - 0 เอฟเวอร์ตัน
สนาม เอมิเรตส์ สเตเดี๊ยม เปิดฉากเริ่มเกมช่วงแรกเล่นกันมา 7 นาที "ท็อฟฟี่สีน้ำเงิน" เอฟเวอร์ตัน น่าจะได้ประตูขึ้นนำรวดเร็วจริงๆ จากจังหวะที่โคลแมนจ่ายบอลแบบถวายพานให้กับพีนาร์วิ่งเข้าชาร์จเน้นๆแถวเขตโทษสวนตัวเซสนี่ย์ที่พยายามพุ่งออกมาบล็อกได้แล้ว แต่กลับหลุดข้ามคานออกไปไกลซะงั้น
นาทีที่ 17 ได้รับหน้าที่มาเก็บนักเตะของอาร์เซนอลหรือยังไงไม่ทราบ แต่บาร์คลี่ย์เข้าบอลหนัก 2 ครั้งติด ไม่กี่นาทีก่อนหน้านี้เพิ่งอัดกาซอร์ล่าจนกอง ตอนนี้ก้มาเสียบสกัดใส่วิลเชียร์จนลงไปนอนกุมข้อเท้า ทำเอาเวนเกอร์วีนแตกข้างสนาม เพราะเจ้าตัวยังไม่โดนจดชื่อแต่อย่างใด
อาร์เซนอลพยายามที่จะครองบอลให้ได้ตามสไตล์ที่พวกเขาถนัด แม้ว่าจะดีขึ้นกว่าตอนแรก แต่ต้องบอกเลยว่าเล่นยากอยู่สักหน่อย เพราะเจอเกมหนักของเอฟเวอร์ตันที่อัดถึงลูกถึงคนทุกเม็ด
นาทีที่ 24 สกัดแบบนี้ปล่อยออกหลังเถอะ สำหรับจังหวะที่เฟลไลนี่วิ่งลงไปช่วยเกมรับแล้วพยายามจะสกัดบอลซึ่งอาร์เซนอลบีบขึ้นด้านข้างออกมา แต่กลายเป็นเหมือนจ่ายเข้ากลางต่อให้กับเพื่อนที่กำลังรวนอยู่จนโดนอาร์เซนอลฉกบอลได้ ยังดีที่จังหวะยิงของกิ๊บส์ถูกบีบเอาไว้จนหวดหลุดคานไปไกล
นาทีที่ 34 จริงๆมันก็ควรจะเป็นแบบนี้สำหรับนักเตะของเอฟเวอร์ตันที่เริ่มทยอยโดนจดชื่อกันไป เพราะมีจังหวะอัดหนักกันมาตั้งแต่ต้นเกม เป็นกิ๊บสันที่โดนก่อนใครเพื่อนจากจังหวะดับเครื่องชนใส่วัลค็อตต์ ก่อนที่พีนาร์จะมาทำเหมือนกันใส่แข้งตัวจี๊ดเมืองผู้ดี ทำให้รับใบเหลืองซ้อนๆกันไป 2 คน
อีก 3 นาทีต่อมา ไม่ยอมเหมือนกันสำหรับแฟนบอลทีมเยือนที่ร้องให้ผู้ตัดสินแจกใบเหลืองให้กับชิรูด์ที่ถึงบอลช้ากว่าแข้งเอฟเวอร์ตันแต่กลับเลือกสไลด์รวบรวดเดียวจนล้มคว่ำ แต่จังหวะนี้ผู้ตัดสินมองว่าตามเกมไม่มีอะไร
นาทีที่ 40 เกือบจะโดนเล่นงานแล้วสำหรับอาร์เซนอลที่ถูกเอฟเวอร์ตันฉกจังหวะชิงขึ้นเกมรุก ก่อนบาร์คลี่ย์พลิกแล้วจ่ายต่อให้กับอนิเชบี้ได้หลุดเข้าไปตวัดยิงในเขตโทษ แต่ติดบล็อกเด้งไปมาจนสุดท้ายเซสนี่ย์คว้าเอาไว้ได้
อีก 2 นาทีต่อมา ยังไงก็ต้องเอาให้มันใกล้เคียงกว่านี้หน่อยสำหรับชิรูด์ที่วิ่งไปเข้าฮอสเสาแรกจากบอลซึ่งแรมซี่ย์ครอสมาทางขวา เขาทิ้งบอลก่อนใคร แต่ก่อนยิงเบิร์ดหลุดออกข้างไปไกลเหมือนไม่พร้อมกับจังหวะนี้เอาซะเลย
นาทีที่ 44 ถ้าไม่มีนี่ฮาวเวิร์ดก็เตรียมตาโตเป็นไข่ห่านเลยกับจังหวะนี้ที่กาซอร์ล่าแตะบอลอย่างคลาสหนีตัวประกบเข้าไปในเขตโทษ ก่อนจะตวัดยิงมุมแคบเน้นๆอยู่แล้ว แต่มีจาเกียลก้าไม่รู้พุ่งมาจากไหนบล็อกทิ้งไปได้ก่อน
จบ 45 นาทีแรกถือว่าโอกาสที่จะได้ประตูนี่ลุ้นแบบไม่ห่างกันมากนัก อีก 45 นาทีที่เหลือต้องดูว่าจังหวะเข้าทำของใครจะพัฒนาขึ้นไปมากกว่ากัน เพราะถ้านำก่อนคงได้เปรียบไม่น้อยกับเกมที่สูสีแบบนี้
ต่อมาในช่วงครึ่งหลังได้ 4 นาที "ปืนใหญ่" อาร์เซนอลมีลุ้นจะได้ประตูจากการยิงอันหนักหน่วงของกาซอร์ล่าที่ได้ส่องตรงมุมซ้ายเขตโทษเน้นๆผ่านบล็อกไปได้แล้ว แต่ไม่ผ่านมือของฮาวเวิร์ดที่ทุบทิ้งออกหลังไปได้
นาทีที่ 57 ถ้าหักมากกว่านี้ชิรูด์ก็ส่องได้เต็มข้อเลยสำหรับจังหวะนี้ของอาร์เซนอลที่แรมซี่ย์ไหลบอลต่อให้กับกิ๊บส์เติมขึ้นไปในเขตโทษอย่างสวย แต่จังหวะเปิดเหมือนหมดมุขแค่หักเข้าในดื้อๆ ทั้งที่มีชิรูด์ฉีกตัวไปต่ำรอเอาบอลอยู่แล้ว เลยเจอบล็อกออกหลังไป
นาทีที่ 65 ถ้าเข้านี่สวยโคตรจับจิตเลย สำหรับจังหวะของบาร์คลี่ย์ที่พลิกหมุนหน้ากรอบเขตโทษ ก่อนหาโอกาสได้เลยปั่นบอลโค้งอ้อมตัวของผู้เล่นอาร์เซนอล วาดอย่างสวยไปเสาสองจะเสียบสามเหลี่ยมอยู่แล้ว แต่ดันหลุดกรอบออกไปนิดเดียวเท่านั้นเอง
นาทีที่ 69 ไม่มีทางเลือกนอกจากต้องเซฟเท่านั้นสำหรับเวนเกอร์ที่ถอดเอาทั้งวัลค็อตต์และวิลเชียร์ออกจากสนาม เพราะทั้งคู่ความฟิตไม่ได้เต็มถังนัก แล้วส่งเอาแชมเบอร์เลนกับโพโดลสกี้ลงไปลุยแทน
เข้าสู่ช่วง 15 นาทีสุดท้ายยังได้ลุ้นกันเหมือนเดิมทั้งสองทีมในเกมนี้ เพราะโอกาสยังไม่ได้ถือว่าฉีกจากกันมาก แต่หากให้วีดกันจริงก็ต้องเป็นอาร์เซนอลที่ทำได้ดีกว่าในช่วงหลัง พาบอลไปถึงเขตโทษได้มากขึ้น เหลือแค่จบให้แจ่มเท่านั้น
นาทีที่ 78 เกือบสุดๆเลยสำหรับจังหวะนี้ของอาร์เซนอลที่แชมเบอร์เลนได้กระชากลากบอลขึ้นไปทางริมเส้น ก่อนที่เขาจะตบเข้ากลางผ่านหน้าฮาวเวิร์ดหมายให้ชิรูด์เข้าฮอสเหน่งๆ แต่มีผู้เล่นของเอฟเวอร์ตันเข้ามาช่วยกันเบียดก่อนโคลแมนจะจิ้มถึงบอลได้ก่อนนิดเดียว
อีก 2 นาทีต่อมา นี่เป็นอีกครั้งที่ชิรูด์น่าจะทำประตูให้กับอาร์เซนอลได้ จากจังหวะที่กิ๊บส์จ่ายบอลต่ำเข้าไปให้กับเขาที่หลบตัวบล็อกได้แล้ว แต่กลับกดบอลพุ่งโด่งมากเกินจนมันข้ามทั้งฮาวเวิร์ดและคานหลุดออกหลังไปไกล น่าเสียดายมาก
แม้ว่าช่วงแรกจะสูสีแต่หลังๆมานี่ลงไปรับอย่างเดียวเลยสำหรับเอฟเวอร์ตัน ดูแล้วพวกเขาน่าจะพอใจกับหนึ่งคะแนนที่ได้ออกมาเยือนในเกมนี้ ดีกว่าไปแลกแล้วไม่มีอะไรติดไม้ติดมือออกมาเลย
จบ 90 นาทีอาร์เซนอลได้แค่เสมอกับเอฟเวอร์ตันไป 0-0 ทำให้มีเพิ่มขึ้นมาแค่คะแนนเดียวเก็บรวม 33 เกมมี 60 แต้ม ส่วนเอฟเวอร์ตันมี 56 คะแนนห่างลิเวอร์พูลในอันดับ 7 อยู่ 6 คะแนน
นี่เองทำให้เชลซีและท็อตแน่ม ฮอต สเปอร์สพร้อมเคลมตำแหน่งของอาร์เซนอลทันที โดยเฉพาะ "สิงห์ไฮโซ" ที่เตะน้อยกว่าถึง 2 เกมด้วยกัน
