เมษายน 27, 2024, 12:13:18 AM

แสดงกระทู้

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.


Messages - Reporter

หน้า: 1 ... 3 4 [5] 6 7 ... 68
61

       เรียกว่าไม่ได้แย่อะไร สำหรับทัศนะของกุนซือ เจอร์เก้น คล็อปป์ ที่มีต่อทีมตัวเองในเกมเปิดบ้านเสมอกับ รูบิน คาซาน ในศึก ยูฟ่า ยูโรป้า ลีก รอบแบ่งกลุ่ม นัดที่ 3 แม้ว่าฝ่ายทีมเยือนจะเหลือผู้เล่นแค่ 10 คนตั้งแต่ท้ายเกมของครึ่งเวลาแรกก็ตาม เพราะรูปเกมโดยรวมถือว่าลูกทีมทำออกมาได้ดี ขาดแค่ความเฉียบคมในการจบสกอร์เท่านั้น

       ทั้งนี้เกมดังกล่าวถือว่าค่อนข้างสำคัญกับหงส์แดงเป็นอย่างมาก  เนื่องจากในสองเกมแรกพวกเขาทำได้แค่เสมอกับคู่แข่งเก็บแต้มได้ 2 แต้ม หากได้รับชัยชนะในนัดนี้จะทำให้งานที่เหลือของหงส์แดงง่ายลง และความได้เปรียบในการเล่นเป็นเจ้าบ้านก็น่าจะเอื้ออำนวยให้ลูกทีมของเจอร์เก้น คล็อปป์คว้าชัยชนะได้ง่ายขึ้น

       ทว่าพอเกมเริ่มจริงๆสถานการณ์กลับไม่เป็นเช่นนั้น ทีมเยือน รูบิน คาซาน บุกมาสร้างเซอร์ไพร์สได้ก่อน เมื่อเป็นฝ่ายออกนำไปตั้งแต่นาทีที่ 15 ก่อนที่เจ้าบ้านมาตามตีเสมอได้ในนาทีที่ 37 จากลูกชาร์ตของ เอ็มเร่ ชาน หลังจากนั้นหงส์แดงพยายามทำเกมบุกเข้าใส่เพื่อหวังคว้าชัย แต่ที่สุดก็ไม่สามารถเอาชนะเกมรับอันเหนียวแน่นของทีมเยือนได้

       คล็อปป์ กล่าวถึงเกมนี้ว่าเกมนี้มันไม่ใช่เกมที่น่าเบื่ออะไรเลยนะ ดูเป็นเกมที่น่าสนใจเลยด้วยซ้ำ ถือเป็นเกมใหญ่ของเราเกมนึง เพราะรูบิน คาซานก็คือทีมคุณภาพทีมนึงเหมือนกัน

       ก็อย่างที่ทุกคนได้เห็นกันไปนั่นแหละ พวกเขาเล่นกันได้ดี อาจจะได้บอลไม่บ่อยนัก แต่พอมีจังหวะพวกเขาทำกันดีมาก การเสียประตูไปก่อนมันจัดเป็นความท้าทายของเกมฟุตบอล เรากำลังเล่นได้โอเค แต่พอมาถูกนำไปก่อนก็ต้องมาตั้งลำกันใหม่แล้วเราก็ทำได้โอเค เมื่อได้ประตูคืน พวกเขาเสียผู้เล่นไปคนนึง ทำให้เราดูได้เปรียบ แต่บ่อยครั้งความพยายามของเรามันสูญเปล่า มันเหมือนกับว่าฝ่ายตรงข้ามหยุดเล่นไป เอาแต่ตั้งรับเรา ยังไงก็ช่างเรามีจังหวะหวิดที่จะได้ประตูชัยจากเบนเทเก้แล้วก็อีกจังหวะอื่นๆอีกหลายครั้ง

62

       ถึงเวลาโชว์ฟอร์มดีก็ได้ทีซูฮกลูกทีมไปตามระเบียบเลยสำหรับกุนซือมาดเฮี้ยบของทีมปีศาจแดง “หลุยส์ ฟาน กัล” โดยคราวนี้เจ้าตัวได้ออกมากล่าวชื่นชมทางด้านของ มาร์กอส โรโฮ ปราการหลังอาร์เจนไตน์ ที่ทำผลงานในเกมลีกสัปดาห์ล่าสุดได้อย่างยอดเยี่ยม กระทั่งติดทีมประจำสัปดาห์จากการจัดของบีบีซี

       ทั้งนี้ โรโฮ ถูกปีศาจแดงดึงเข้ามาร่วมทีมเมื่อซีซั่นก่อน และก็กลายเป็นหนึ่งในตัวความหวังเกมรับของปีศาจแดงยุคใหม่ไปโดยปริยาย เพราะนักเตะกองหลังตัวหลักหลายๆ รายของปีศาจแดงที่อยู่มาก่อนหน้านี้ถึงเวลาต้องอำลาทีมไป อาทิเช่น เนมานย่า วิดิช, ริโอ เฟอร์ดินานด์, ปาทริซ เอวร่า เป็นต้น

       จากการที่นักเตะแบ็กซ้ายตัวหลักของทีมอย่าง ลุค ชอว์ ได้รับบาดเจ็บยาวในช่วงนี้ทำให้กุนซือชาวดัตซ์เลือกที่จะใช้บริการของ โรโฮ ในการลงเล่นตำแหน่งนี้ และนักเตะก็ทำผลงานได้มากในเกมสัปดาห์ล่าสุดตามกล่าวข้างต้น

       อย่างไรก็ตาม หลุยส์ ฟาน กัล กล่าวถึงลูกทีมคนเก่งรายนี้ว่าก่อนหน้านั้นผมไม่เคยรู้นะว่าโรโฮเคยเล่นให้กับสปาร์ตัก มอสโคมาก่อน ผมเห็นเขาให้กับทีมชาติอาร์เจนติน่า แล้วก็สปอร์ติง ลิสบอน นั่นแหละเป็นสองที่ที่ทำให้ผมได้ติดตามดูฝีเท้าของเขา จุดเด่นของเขาที่ผมชอบมากก็คือเขาเป็นนักเตะที่ร่างกายแข็งแกร่งมากๆ แล้วก็มีการผ่านบอลได้รวดเร็ว แม่นยำ

       สิ่งเหล่านี้แหละที่ผมมักต้องการจากนักเตะเสมอ เพราะผมต้องการความรวดเร็นในการเล่นทุกๆตำแหน่ง เมื่อเขาพัฒนาขึ้นอีกเขาจะก้าวขึ้นไปอยู่ในระดับสูง ตอนนี้เขายังพัฒนาไม่เต็มที่นะ ผมคิดว่าศักยภาพของเขามีพอที่จะก้าวขึ้นเป็นนักเตะชั้นยอดของปีศาจแดง (โรโฮในช่วงต้นซีซั่นนี้มีอาการบาดเจ็บรบกวน ทำให้เจ้าตัวยังไม่ได้ลงสนามให้กับยูไนเต็ดมากสักเท่าไหร่ แต่จากอาการบาดเจ็บของนักเตะรายอื่น และการที่เจ้าตัวเพิ่งโชว์ฟอร์มได้ดีน่าจะทำให้ช่วงระยะเวลาที่เหลืออยู่ของซีซั่นนี้เป็นช่วงเวลาของการลงสนามอย่างต่อเนื่อง)

63

      ต้องถือว่าเป็นการดับซ่าทีมจากเมืองเบียร์ได้อย่างน่าชื่นชมมากเลยทีเดียว สำหรับเกมการแข่งขันศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่ม F นัดที่ 3 ระหว่างทีมปืนโต อาร์เซน่อล ยักษ์ใหญ่แห่ง พรีเมียร์ลีก อังกฤษ กับทีมเสือใต้ บาเยิร์น มิวนิค ยอดทีมจาก บุนเดสลีกา เยอรมัน เมื่อเป็นฝ่ายเจ้าบ้านที่เอาชนะไปได้แบบเหนือความคาดหมายด้วยสกอร์ 2-0

       ทั้งนี้ก่อนเกมการแข่งขัน เสือใต้จากเมืองเบียร์นำเป็นจ่าฝูงของกลุ่ม ด้วยจำนวน 6 แต้มจากชัยชนะในสองเกมแรก ด้านเจ้าบ้านอาร์เซน่อลพ่ายแพ้มาสองเกมติด ยังไม่มีแต้ม หลังจบเกมการแข่งขัน บาเยิร์น มิวนิค ยังคงนำเป็นจ่าฝูงต่อไปด้วยจำนวน 6 แต้มเท่ากับโอลิมเปียกอส แต่มีผลต่างประตูได้เสียที่ดีกว่า

       ด้าน อาร์เซน่อล รั้งอันดับสามมีสามแต้มเท่ากับทีมอันดับบ๊วยของกลุ่มอย่าง ดินาโม ซาเกร็บ แต่ผลต่างประตูได้เสียดีกว่า

       เกมนี้ลูกทีมของ อาร์แซน เวนเกอร์ มาในระบบการเล่น 4-2-3-1 ผู้รักษาประตูเป็น ปีเตอร์ เช็ก ปราการหลังสี่รายมี นาโช่ มอนเรอัล, แพร์ แมร์เตซัคเกอร์, โรล็องต์ กอสเซียลนี่ และเอคเตอร์ เบญาริน คู่มิดฟิลด์ตัวกลางเป็นฟรานซิส โกเกอแล็ง กับอารอน แรมซี่ย์ เกมรุกมี ซานติ กาซอร์ล่า, เมซุต โอซิล, อเล็กซิส ซานเชซ และหน้าเป้าเป็นธีโอ วัลค็อตต์

       ด้านทีมเยือนมาในระบบเดียวกัน ผู้รักษาประตูเป็นมานูเอล นอยเออร์ เกมรับมีฟิลิปป์ ลาห์ม เชอโรม บัวเต็ง ฮวน เบอร์นาด และดาวิด อลาบา มิดฟิลด์ และเกมรุกมี ชาบี อลอนโซ่, อาตูโร่ วิดัล, ติอาโก้ อัลคันตาร่า, ดักลาส คอสต้า, โธมัส มุลเล่อร์ และหน้าเป้าเป็นโรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้

       สำหรับไฮไลท์การทำประตูสองประตูของเจ้าบ้าน ประตูแรกได้จากโอลิวิเย่ร์ ชิรูด์ ที่ถูกส่งลงมาเป็นตัวสำรอง ยิงได้นาทีที่ 77 ประตูที่สองได้จากเมซุต โอซิล นาทีที่ 90

       ด้านผลการแข่งขันของทีมจากพรีเมียร์ลีก อีกทีมนึงที่ลงเตะในวันเดียวกันสิงโตน้ำเงินคราม เชลซี ทำได้แค่บุกไปเสมอกับ ดินาโม เคียฟ 0-0

64

       ต้องบอกว่าเข้าตำราได้ทีคุยเลยงานนี้ สำหรับทางด้านของ อันเดร์ เอร์เรร่า มิดฟิลด์เชิงสูงของปีศาจแดง แมนฯยูไนเต็ด ยอดทีมแห่ง พรีเมียร์ลีก อังกฤษ เมื่อออกมากล่าวในทำนองโวว่าทีมปีศาจแดงของตนเองเวลานี้ไม่เกรงกลัวทีมไหนทั้งนั้น โดยพร้อมที่จะสู้กับทุกทีม และคว้าชัยชนะให้ได้ หลังสามารถกู้หน้าจากการบุกไปพ่ายแพ้ให้กับอาร์เซน่อล 3-0 ในโปรแกรมสองสัปดาห์ที่แล้วก่อนพักเบรกทีมชาติ ด้วยการถล่มเอาชนะเอฟเวอร์ตันด้วยสกอร์ 3-0 ในเกมสัปดาห์ล่าสุด

       ทั้งนี้ชัยชนะของ ปีศาจแดง ในเกมเหนือ ทอฟฟี่สีน้ำเงิน ส่งผลให้พวกเขายังคงรักษาช่องว่างระหว่างทีมจ่าฝูงแมนฯซิตี้ไว้ที่ 2 แต้ม แม้ว่าฝ่ายหลังจะโชว์ฟอร์มได้ยอดเยี่ยมด้วยการถล่มคู่แข่งไปเละเทะถึง 5-1 ก็ตาม

       ที่สำคัญมันทำให้พวกเขามีโอกาสดีมากทีเดียวกับการที่จะเป็นฝ่ายพลิกกลับไปนำเป็นจ่าฝูงอีกครั้ง เพราะเกมสัปดาห์หน้าสองทีมจากเมืองแมนเชสเตอร์จะได้ลงเผชิญหน้ากันเอง

       อย่างไรก็ตาม เอร์เรร่า ที่โชว์ฟอร์มได้ดีในเกมไล่ถล่มทอฟฟี่สีน้ำเงินกล่าวถึงทีมตนเองเวลานี้ว่าถ้าเรายังคงทำได้ดีแบบนี้มันย่อมหมายความว่าเราพร้อมที่จะเอาชนะทุกทีม แน่นอนล่ะเมื่อแพ้ให้กับอาร์เซน่อลมาอย่างน่าเจ็บปวด พวกเราต้องตั้งตารอเกมต่อไปเพื่อจะระเบิดฟอร์มแสดงปฏิกิริยาตอบสนองต่อความพ่ายแพ้ที่เราเจอมาอยู่แล้ว แล้ว 20 นาทีแรกของการเจอกับเอฟเวอร์ตันพวกเขาก็ทำได้สวยเลย เราเล่นกันยอดมากๆ นี่แหละคือการแสดงออกมาว่าเราต้องการสู้เพื่อคว้าแชมป์ในหลายๆรายการ ทีมที่จะลุ้นแชมป์ทุกรายการจะต้องเล่นให้ได้แบบนี้แหละ

       นอกจากประเด็นฟอร์มการเล่นของทีมแล้วเอร์เรร่าก็ยังได้กล่าวไปถึงประเด็นการโหม่งทำประตูของตนเองอีกด้วยว่าช่างเป็นอะไรที่ดูจะเหมาะเจาะมากๆกับลูกเปิดสุดสวยของ มาร์กอส โรโฮ และจะว่าไปแล้วตนเองก็ชอบทำประตูจากลูกโหม่งมาตั้งแต่สมัยเล่นให้กับบิลเบาแล้วด้วย


65

       ถือว่าส่อแววว่าจะต้องเริ่มงานใหม่แบบโดดเดี่ยวเลยทีเดียวสำหรับกุนซือความหวังใหม่ของทีมหงส์แดง “เจอร์เก้น คล็อปป์” เพราะแม้ว่าเจ้าตัวจะดึงเอาผู้ช่วยคนสำคัญมาอย่าง เซลจ์โก้ บูวัซ ที่เคยทำงานร่วมกันตั้งแต่สมัยคุมไมนซ์มาร่วมงานกันต่อที่ลิเวอร์พูลด้วย แ

       ต่ล่าสุดมีสื่อรายงานข่าวออกมาว่าบูวัซนั้นอาจจะไม่ได้มาช่วยคล็อปป์ทันในเกมประเดิมที่หงส์แดงจะบุกไปเยือนไวท์ ฮาร์ท เลนของทีมไก่เดือยทอง ท็อตแน่ม ฮอต สเปอร์ส เหตุเพราะใบเจ้าตัวยังไม่ได้รับใบอนุญาตทำงานในอังกฤษนั่นเอง

       อย่างไรก็ตามทางสโมสรลิเวอร์พูลกำลังเร่งดำเนินการเพื่อให้เสร็จสิ้นเร็วที่สุด สำหรับบูวัซนั้นในแวดวงฟุตบอลทราบกันดีว่าเจ้าตัวเปรียบเสมือนผู้ช่วยคู่คิดของ เจอร์เก้น คล็อปป์ เลยทีเดียว และแม้ว่าเครดิตความสำเร็จส่วนใหญ่ในการทำทีมโดยเฉพาะกับช่วงที่อยู่ดอร์ทมุนด์จะตกเป็นของตัวกุนซือ แต่ก็ไม่อาจปฏิเสธได้เลยว่าเบื้องหลังความสำเร็จจริงๆจะต้องมีความคิด ความสามารถของบูวัซเป็นส่วนประกอบ

       ทั้งนี้นอกจากในรายของบูวัซแล้ว ปีเตอร์ คราเวียตส์ ก็เป็นโค้ชอีกหนึ่งรายที่เข้ามาเป็นผู้ช่วยของเจอร์เก้น คล็อปป์แทนที่ของสองผู้ช่วยคนเดิมอย่าง แกรี่ แม็คอัลลิสเตอร์ และโอดริสคอลล์ สองผู้ช่วยในยุคของกุนซือ เบรนแดน ร็อดเจอร์ส ที่โดนโละออกตามนายใหญ่ไป

       ส่วนเรื่องราวอื่นๆที่น่าสนใจในช่วงของการเตรียมพา หงส์แดง ประเดิมเกมแรกนี้ก็แน่นอนว่าหนีไม่พ้นรูปแบบการเล่น หรือสไตล์การเล่นที่นายใหญ่ชาวเยอรมันจะรังสรรค์ออกมาให้หงส์แดง ซึ่งมีแฟนบอล และผู้คนในแวดวงฟุตบอลจำนวนมากคอยติดตามดูอยู่ ว่ากันง่ายๆคือมันน่าสนใจนั่นแหละครับ ว่ารูปแบบการเล่นของหงส์แดงนั้นจะเปลี่ยนแปลงไปจากยุคของ เบรนแดน ร็อดเจอร์ส มากน้อยแค่ไหน และจะเป็นไปในทิศทางที่ดีขึ้น หมายถึงดูแล้วเป็นการเล่นที่สวยงามลื่นไหลกว่าเดิมหรือไม่ เช่นเดียวกันกับผลการแข่งขันที่จะออกมาก็นับว่าน่าสนใจ เพราะสเปอร์สนั้นถือเป็นหนึ่งทีมแกร่งที่ใช่ว่าใครจะไปหยิบแต้มออกมาจากถิ่นของพวกเขาได้ง่ายๆ

66

       ถือว่าเป็นการกู้หน้าให้ พรีเมียร์ลีก ได้อย่างสมบูรณ์แบบจริงๆสำหรับสองทีมจากเมืองแมนเชสเตอร์อย่าง แมนฯซิตี้ และ แมนฯยูไนเต็ด ที่ลงทำการแข่งขันในศึก UCL รอบแบ่งกลุ่มนัดที่สองพร้อมกันในคืนวันพุธที่ 30 กันยายน และช้ากว่าทีมอาร์เซน่อล กับเชลซี สองทีมจากกรุงลอนดอนหนึ่งวัน เมื่อทั้งคู่สามารถเก็บชัยชนะเหนือคู่แข่งได้ด้วยสกอร์เดียวกันที่ 2-1

       โดยในส่วนของ แมนฯยูไนเต็ด นั้นเปิดบ้านโอลแทรฟฟอร์ดเอาชนะทีมม้าป่าจากเยอรมัน โวล์ฟบวร์ก ขณะที่ แมนฯซิตี้ บุกไปเอาชนะ โบรุสเซีย มึนเช่นกลัดบัค

       สำหรับไฮไลท์การทำประตูที่เกิดขึ้นในเกม แมนฯยูไนเต็ด เฉือน โวล์ฟบวร์ก เป็นโวล์ฟบวร์กทีมเยือนที่ได้ประตูนำ 1-0 ไปก่อนตั้งแต่นาทีที่ 4 ของเกมการแข่งขันจาก แดเนียล คาริกูรี่ จากนั้นนาทีที่ 34 ฮวน มานูเอล มาต้ามาซัดจุดโทษให้เจ้าบานตามตีเสมอเป็น 1-1 จบเกมครึ่งเวลาแรกเสมอกันไปที่ผลบอลดังกล่าว ครึ่งเวลาหลังนาทีที่ 53 คริส สมอลิ่งมาเป็นฮีโร่ซัดประตูชัย 2-1 ให้เจ้าบ้าน

       ด้านเกมคู่ แมนฯซิตี้ ก็เป็นทางแมนฯซิตี้ที่โดนยิงนำไปก่อนเช่นกัน โดยเจ้าบ้านกลัดบัคได้ประตูนำ 1-0 ในนาทีที่ 54 จากลาส สตินด์ ก่อนที่นาทีที่ 65 คริสเตนเซ่นจะมาทำเข้าประตูตัวเองส่งให้ทีมยือนตามตีเสมอได้เป็น 1-1 และเป็นเซร์คิโอ อเกวโร่ กุนที่มาซัดจุดโทษให้ทีมเยือนแซงชนะเป็น 2-1 ในนาทีสุดท้ายของเกมการแข่งขัน

       อย่างไรก็ตาม แม้ว่าทั้งแมนฯยูไนเต็ด และแมนฯซิตี้จะสามารถเก็บชัยชนะในเกมนี้ได้ แต่โอกาสในการลุ้นเข้ารอบก็ยังไม่มีอะไรแน่นอนอยู่ดี โดยกลุ่มบีของแมนฯยูไนเต็ดทั้งสี่ทีมประกอบด้วย พีเอสวี มอสโค แมนฯยู และโวล์ฟบวร์กนั้นมีสามแต้มเท่ากันทุกทีม

       ขณะที่กลุ่มดีของซิตี้นั้น แมนฯซิตี้ รั้งอยู่อันดับสามของกลุ่มมีสามแต้ม อันดับหนึ่งเป็นยูเวนตุสมี 6 แต้ม อันดับสองเซบีญ่ามี 3 แต้มเท่ากับซิตี้แต่ผลต่างประตูได้เสียดีกว่า และอันดับสี่มึนเช่นกลัดบัคยังไม่มีแต้ม

67

       ต้องเรียกว่าเริ่มอวยกันเองแล้วสำหรับแข้งหงส์แดง ลิเวอร์พูล ลูกทีมของ เบรนแดน ร็อดเจอร์ส เมื่อทางด้านของ เจมส์ มิลเนอร์ กัปตันทีมเบอร์สองไม่รู้นึกอะไรขึ้นมาจู่ๆออกมากล่าวทำนองว่า แดเนียล สเตอร์ริดจ์ หัวหอกคนปัจจุบันของทีมนั้นเจ๋งกว่าทางด้านของ หลุยส์ ซัวเรซ กองหน้าอุรุกวัยอดีตขวัญใจเดอะค็อปที่ปัจจุบันเล่นให้กับบาร์เซโลน่า ยอดทีมแห่งแคว้นกาตาลัน

       ทั้งนี้สัปดาห์ที่ผ่านมาถือว่าเป็นสัปดาห์ที่ยอดเยี่ยมของ สเตอร์ริดจ์ และหงส์แดง เมื่อนักเตะสามารถกลับมาลงสนามให้ทีมได้ด้วยสภาพความฟิตที่สมบูรณ์ หลังห่างหายจากสนามไปพักรักษาอาการบาดเจ็บนานหลายเดือนแ ละสามารถทำประตูให้กับทีมได้ทันทีถึงสองประตูส่งผลให้ หงส์แดง คว้าสามคะแนนสำคัญในเกมเปิดบ้านดับวิลล่า 3-2

       อย่างไรก็ตา มิลเนอร์ ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ทำสกอร์ และทำแอสซิสให้กับ สเตอร์ริดจ์ ในเกมดังกล่าวด้วยได้แสดงความคิดเห็นต่อผลงานของเพื่อนร่วมคนเก่งว่า เขาคือนักเตะชั้นยอดเลยล่ะ สถิติการทำประตูของเขานั้นดีกว่า หลุยส์ ซัวเรซ อีกนะ นั่นแหละคือสิ่งที่บ่งบอกอะไรได้หลายอย่างเลย เขาเป็นนักเตะที่เปี่ยมไปด้วยคุณภาพ และแน่นอนเขาคือสุดยอดกองหน้าที่เรามีอยู่ เราหวังว่าเขาจะสามารถทำมันได้ยอดเยี่ยมอย่างนี้ต่อไปพร้อมๆกับรักษาสภาพความฟิตแบบนี้ไว้ สำหรับนักเตะแบบเขาแล้วไม่ว่าจะอยู่ในทีมไหนก็ตามหากว่าเขาหายไปทุกคนย่อมจะต้องคิดถึงเขาอยู่แล้ว

       สถิติการทำประตูในลีกให้หงส์แดงของ แดเนียล สเตอร์ริดจ์ ที่ผ่านมานั้นคิดเป็น 0.65 ประตูต่อเกม จากผลงานการลงสนาม 57 เกม และซัดไป 37 ประตู ซึ่งจัดเป็นสถิติการทำประตูที่ดีที่สุด ขณะที่ หลุยส์ ซัวเรซ นั้นมีสถิติยิงประตูให้หงส์แดง 0.63 ประตูต่อเกม

       ด้าน เฟร์นานโด ตอร์เรส อีกหนึ่งอดีตยอดกองหน้าของทีมมีสถิติ 0.64 ประตูต่อเกม แต่ทั้งนั้นทั้งนี้ในส่วนของจำนวนประตูรวมที่ทำได้ทั้งซัวเรซ และตอร์เรสทำได้มากกว่าสเตอร์ริดจ์ เนื่องจากลงสนามให้กับทีมหงส์แดงมากกว่า


68

       ต้องบอกว่าเป็นฟอร์มการเล่นที่สุดบู่จริงๆสำหรับบรรดาทีมจากอังกฤษในราย ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ซีซั่นนี้ เมื่อล่าสุดในเกมรอบแบ่งกลุ่มนัดที่สองทั้งทีมปืนโต อาร์เซน่อล และทีมสิงโตคำราม เชลซีที่ลงเตะในวัน และเวลาเดียวกันต่างพากันนัดพ่ายแพ้ให้กับคู่แข่งไป โดยในส่วนของปืนโต อาร์เซน่อล นั้นเปิดบ้านเอมิเรตสเตเดี้ยมพ่ายให้กับ โอลิมเปียกอส ไป 2-3 ส่วน เชลซี นั้นบุกไปพ่าย เอฟซี ปอร์โต้ ทีมดังของโปตุเกส 2-1

       ทั้งนี้จากผลการแข่งขันในเกมนี้ของอาร์เซน่อลทำให้พวกเขาจมอยู่อันดับบ๊วยของตารางคะแนนกลุ่ม F จากแพ้รวดทั้งสองเกม ยังไม่มีคะแนนและมีผลต่างประตูได้เสียติดลบอยู่ 2  สำหรับทีมอันดับหนึ่งของกลุ่มเป็นบาเยิร์น มิวนิคที่มี 6 คะแนนเต็ม อันสองเป็นโอลิมเปียกอสมี 3 คะแนน และอันดับสามเป็นดินาโม ซาเกร็บมี 3 คะแนนเท่ากัน

       ด้านเชลซีจากความพ่ายแพ้ต่อเอฟซี ปอร์โต้ส่งผลให้พวกเขารั้งอันดับสามของกลุ่ม G โดยมีสามแตมจากชัยชนะ มัคคาบี้ เทล อาวีฟ ในเกมแรก ทีมอันดับหนึ่งเป็นดินาโม เคียฟมี 4 แต้มเท่ากับอันดับสองเอฟซี ปอร์โต้

       ถึงตอนนี้จึงสรุปได้คร่าวๆว่าสถานการณ์ของทีมจากอังกฤษทั้ง เชลซี อาร์เซน่อล รวมไปถึง แมนฯซิตี้ และ แมนฯยูไนเต็ด ในการลุ้นเข้ารอบต่อไปนั้นไม่ค่อยจะดีเลย เรียกว่าค่อนข้างยากสำหรับการจะลุ้นเข้ารอบในฐานะแชมป์กลุ่ม แต่หากเป็นในฐานะอันดับสองก็ยังพอลุ้นได้

       เพราะทีมอย่าง ซิตี้ และ แมนฯยูไนเต็ด ที่จะลงแข่งในเกมที่สองช้ากว่าหนึ่งวันก็ไม่มีแต้มติดมือจากเกมแรกเลย แมนฯยูไนเต็ดเองก็แพ้พีเอสวี แมนฯซิตี้ก็แพ้ยูเวนตุสมา

       อย่างไรก็ตามเกมในรอบแบ่งกลุ่มยังเหลือให้ได้หวดแข้งกันอีกอย่างน้อยๆก็ 4 เกมด้วยกัน ดังนั้นยังถือว่าพอมีเวลาเหมือนกันที่บรรดาทีมจากอังกฤษจะพากันพลิกฟอร์ม พลิกโชคชะตา

69

       ต้องบอกว่าอาจจะเป็นผลงานชิ้นสำคัญที่ช่วยต่ออายุการทำงานของเบรนแดน ร็อดเจอร์สในฐานะกุนซือของทีมหงส์แดงก็ได้งานนนี้สำหรับชัยชนะในเกมล่าสุดของพวกเขาที่ทำได้เหนือทีม แอสตัน วิลล่า ผู้มาเยือนในแอนฟิลด์ด้วยสกอร์ 3-2

       ทั้งนี้ก่อนเกมการแข่งขันแมทนี้สถานการณ์ของร็อดเจอร์นั้น เป็นอะไรที่กดดันไม่น้อยเลย เพราะแฟนบอลเดอะค็อปจำนวนมากออกมาก่อกระแสเร้าให้บอร์ดบริหารทีมสั่งปลดกุนซือชาวไอร์แลนด์เหนือรายนี้ออกจากตำแหน่ง พร้อมกับมีการคาดการณ์กันไปด้วยว่าหากเกมนี้หงส์แดงไม่สามารถเก็บชัยชนะได้ รุ่งขึ้นน่าจะมีข่าวแถลงปลดร็อดเจอร์สออกมาแน่นอน

       อย่างไรก็ตามเกมนี้ ร็อดเจอร์ส และลูกทีมทำได้ดีเมื่อเป็นฝ่ายยิงประตูออกนำทีมเยือนไปตั้งแต่ไก่โห่ จากเจมส์ มิลเนอร์ กัปตันทีมในนาทีที่ 2 จากนั้นครึ่งเวลาหลังนาทีที่ 59 มาได้ประตูนำห่างเป็น 2-0 จากดาเนียล สเตอร์ริดจ์ ก่อนที่อีกเจ็ดนาทีถัดมารูดี้ เกสเตเด้จะมาตีไข่แตกให้ทีมเยือนไล่มาเป็น 2-1

       กระนั้น สเตอร์ริดจ์ คนเดิมก็มาช่วยให้หงส์แดงหนีห่างวิลล่าอีกครั้งเป็น 3-1 ในนาทีที่ 67 หลังจากนั้นทีมเยือนยังไม่ยอมแพ้ซะทีเดียวเกสเตเด้คนเดิมเช่นกันมาไล่ประตู 3-2 ให้ในนาทีที่ 71 ทว่าช่วงเวลาที่เหลือทั้งสองฝ่ายต่างทำอะไรกันเพิ่มเติมไม่ได้ทำให้จบเกมส่งลิเวอร์พูลคว้าชัยชนะเป็นแมทที่สามของซีซั่นนี้ พร้อมขยับขึ้นมารั้งอันดับที่เจ็ดของตารางคะแนน ด้วยจำนวนแต้ม 11 แต้ม ตามหลังทีมอันดับสี่อย่างอาร์เซน่อลอยู่เพียงแค่ 2 คะแนนเท่านั้น และตามหลังทีมจ่าฝูงแมนฯยูไนเต็ด 5 คะแนน

       สำหรับการจัดตัวผู้เล่นในเกมนี้หงส์แดงไม่มีทั้งเดยัน ลอฟเรน จอร์แดน เฮนเดอร์สัน โรแบร์โต้ เฟอร์มิโน่ และคริสเตยอง เบนเทเก้ที่ได้รับบาดเจ็บ ทำให้ร็อดเจอร์สเลือกใช้แผนการเล่นแบบ 3-4-3 โดยผู้รักษาประตูเป็นซิมง มิโญเล่ต์ ปราการหลังสามรายเป็นเอ็มเร่ ชาน มาร์ติน สเคอเทล และมามาดู ซาโก้ วิงแบ็กซ้ายขวาเป็นอัลแบร์โต้ โมเรโน่ และนาธาเนียล ไคลน์ คู่มิดฟิลด์ตัวกลางเป็นเจมส์ มิลเนอร์ กับลูคัส เลว่า แผงเกมรุกมีคูตินโญ่ สเตอร์ริดจ์ และอิงส์

70

       เรียกว่าทำลายกันทุกสถิติเลยทีเดียว สำหรับฟอร์มสุดเทพของ โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ กองหน้าโปแลนด์ของทีมเสือใต้ บาเยิร์น มิวนิค ในเกมเปิดบ้านไล่ถล่มโวล์ฟบวร์กไป 5-1 ซึ่งเจ้าตัวเหมาซัดคนเดียวทั้งห้าประตู อีกทั้งห้าประตูที่เกิดขึ้นนั้นยังมาจากการลงเล่นของเจ้าตัวเพียงแค่ครึ่งเวลาเดียวเท่านั้น เนื่องจากเกมนี้กุนซือ โจเซ่ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า เลือกที่จะไม่ส่งเจ้าตัวออกสตาร์ทตัวจริง

       ทั้งนี้เกมดังกล่าวทีมเยือน โวล์ฟบวร์ก ทำได้ดีกว่าในครึ่งเวลาแรก และซัดประตูกระตุกหนวดเสือก่อน 1-0 จากลูกยิงของ ดาเนียล คาริกูลี่ ครึ่งเวลาหลังกุนซือเจ้าบ้านอดรนทนไม่ไหว จัดการส่งกองหน้าทีมชาติโปแลนด์ลงไปยืนเป็นหน้าเป้า พร้อมกับส่ง ฆาบี้ มาร์ติเนซ ลงบัญชาเกมในแดนกลาง

       เกมดำเนินมาถึงนาทีที่ 51 เลวานดอฟสกี้ ตอบแทนความไว้ใจในการแก้เกมส์ของเป๊ปครั้งนี้ด้วยการซัดประตูตีเสมอให้เจ้าบ้านเป็น 1-1 ต่อด้วยนาทีที่ 51 พลิกนำเป็น 2-1 อีกสามนาทีถัดมาเป็น 3-1 รวม 4 นาทีกองหน้ารายนี้ซัดแฮตทริก ส่งผลให้กลายเป็นสถิติใหม่ในการทำแฮตทริกเร็วที่สุดในบุนเดสลีกา เยอรมัน แต่ยังไม่พอเท่านั้น ในนาทีที่ 57 และ 60 เลวานฯซัดให้เจ้าบ้านเพิ่มอีกสองประตู ทำให้เบ็ดเสร็ตแล้วใช้เวลาไป 9 นาทีในการทำ 5 ประตู นับเป็นสถิติการทำประตูมากที่สุด และรวดเร็วที่สุดในเกมเดียวของ บุนเดสลีกา เยอรมัน อีกเช่นกัน

       ส่วนหลังเกมการแข่งขันก็แน่นอนว่ากุนซือของทีมอย่าง เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ได้ออกมากล่าวซูฮกในผลงานของลูกทีมคนเก่งรายนี้เป็นการใหญ่เลย โดยเขากล่าวว่าผมไม่เคยเจอเรื่องแบบนี้เลย ทั้งในตอนเป็นกุนซือและตอนเป็นนักเตะมันยอดเยี่ยมมากสำหรับ 5 ประตูในเวลา 9 นาทีเท่านั้น ผมมีความสุขมาก ทีมของเราเล่นได้แย่ใน 45 นาทีแรก แต่แล้ว 5 ประตูมันเกิดขึ้นผมไม่รู้จะพูดยังไงเลย

71

       ผ่านพ้นกันไปเรียบร้อยสำหรับศึกฟุตบอลถ้วยยุโรป รอบแบ่งกลุ่มนัดแรกทั้งถ้วยใบใหญ่ และใบเล็ก โดยในส่วนของถ้วยใบเล็ก ซึ่งก็คือ ยูโรป้า ลีก นั้น ทีมที่น่าสนใจ หรือว่าทีมดังๆที่ลงเล่นก็พอมีให้แฟนบอลได้ติดตามบ้าง เรียกว่าไม่ได้พากันไปอยู่ถ้วยใบใหญ่หมดซะทีเดียว อย่างทีมหงส์แดง ลิเวอร์พูล จากอังกฤษก็ลงเล่นเกมแรกพบกับ บอร์กโดซ์ ทีมดังของลีกเอิง ฝรั่งเศส

       ผลการแข่งขันที่ออกมาเป็นการเสมอกันไป 1-1 แบ่งกันไปทีมละหนึ่งแต้ม เกมนี้หงส์แดงของกุนซือเบรนแดน ร็อดเจอร์สจัดทัพชุดสองลงเล่น นักเตะที่เป็นตัวหลักหลายๆตัวถูกพัก บ้างก็ไม่ได้เดินทางมาที่ฝรั่งเศสด้วยซ้ำ อาทิเช่น คริสเตยอง เบนเทเก้, โรแบร์โต้, นาธาเนียล ไคลน์, มาร์ติน สเคอเทล ทั้งนี้ก็เพื่อเตรียมไว้ลงเล่นในรายการลีกที่พวกเขามีโปรแกรมเจอกับนอริช ซิตี้ในวันอาทิตย์นี้ สำหรับผู้เล่น 11 ตัวจริงที่ร็อดเจอร์สส่งลงสนาม ผู้รักษาประตูเป็นซิมง มิโญเล่ต์ แผงแบ็กโฟร์มี โจ โกเมซ, โคโล ตูเร่, มามาดู ซาโก้ และอัลแบร์โต้ โมเรโน่ กองกลางมี เอ็มเร่ ชาน, ฟิลิป คูติญโญ่, จอร์แดน รอสซิสเตอร์ เกมรุกสามรายมี อดัม ลัลลาน่า, ดีว็อค โอริกี้ และจอร์ดอน ไอบ์

       ไฮไลท์การทำประตูเกมนี้ หงส์แดงไ ด้ประตูขึ้นนำไปก่อน 1-0 จากอดัม ลัลลาน่า นาทีที่ 66 จากนั้นนาทีที่ 81 เป็นชุซซี่ที่มาตามตีเสมอให้เจ้าบ้านได้สำเร็จเป็น 1-1

       ส่วนผลการแข่งขันของคู่อื่นๆที่น่าสนใจเสือเหลือง ดอร์ทมุนด์ เปิด ซิกนัล อิดูน่า พาร์ค เอาชนะ คาสโนด้า ไปได้ 2-1 อาแจ็กซ์ อัมเตอร์ดัมเปิดบ้านเสมอกับเซลติกไป 2-2 นาโปลีถล่มคลับบรูซไป 5-0 ฟิออเรนติน่าเปิดบ้านพ่ายให้กับบาเซิ่ลไป 1-2 ท็อตแน่ม ฮอต สเปอร์ส อีกหนึ่งทีมจากอังกฤษเปิดไวท์ ฮาร์ท เลนถล่มกาลาบัคไป 3-1 แอธแลติก บิลเบา เปิดบ้านถล่มเอาก์บวร์กไป 3-1

72

       ต้องเรียกว่าเป็นหนึ่งทีมที่มักน้อยจริงๆสำหรับเจ้าจิ้งจอกสยาม เลสเตอร์ ซิตี้ ทีมขวัญใจแฟนบอลชาวไทยแห่งศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ เพราะแม้ว่าจะออกสตาร์ทซีซั่นได้อย่างยอดเยี่ยมกระทั่งรั้งตำแหน่งรองจ่าฝูงอยู่ขณะนี้ และยังไม่พ่ายแพ้ให้กับทีมใดเลยหลังผ่านพ้นห้าเกมแรก แต่ เคลาดิโอ รานิเอรี่ นายใหญ่ชาวอิตาเลี่ยนของทีมที่เพิ่งจะเข้ามาในซีซั่นนี้ยืนยันว่าเป้าหมายของ เลสเตอร์ ไม่ได้เปลี่ยนแปลงไปตามผลงานในช่วงออกสตาร์ทห้าเกมแรกแต่อย่างใด

       โดยยังหวังเพียงแค่ว่าจะอยู่รอดปลอดภัยในลีกต่อไปเท่านั้น พร้อมกันนี้ รานิเอรี่ ก็ยังได้กล่าวต่อไปอีกด้วยว่าเป้าหมายของเขาที่คาดหวังจากลูกทีมตอนนี้ก็คือการเก็บเพิ่มให้ได้อีก 29 แต้มให้เร็วที่สุดเพื่อการันตีการอยู่รอดในลีกให้เร็วที่สุดเช่นกัน

       ทั้งนี้ปัจจุบันเลสเตอร์มี 11 แต้มจากห้าเกมแรก แบ่งเป็นชัยชนะสามเกม และเสมอสองเกม ในเกมล่าสุดเป็นการเอาชนะแอสตัน วิลล่าไปได้แบบสุดมันส์ 3-2 ถ้าหากเก็บเพิ่มได้อีก 29 แต้มก็ทำให้พวกเขามี 40 แต้ม ซึ่งก็เป็นจำนวนแต้มที่ค่อนข้างปลอดภัยในการอยู่รอดบนลีกสูงสุดแดนผู้ดีต่อไป

       อย่างไรก็ตามแม้ว่า รานิเอรี่ จะประกาศเป้าหมายออกมาแบบชัดเจน แต่หากว่ากันที่กลุ่มแฟนบอลของทีมแล้วก็ต้องยอมรับกันตามตรงว่า ถึงตอนนี้พวกเขาน่าจะหวังกันไปไกลเกินกว่าแค่การอยู่รอดในพรีเมียร์ลีกแล้ว

       อาจไม่ถึงขั้นลุ้นแย่งแชมป์ เพราะขุมกำลังของพวกเขาเมื่อเทียบกับทีมใหญ่แล้วเป็นเรื่องยากที่จะยืนระยะสู้ได้ยาวๆ ทว่าอย่างน้อยการลุ้นไปเล่นฟุตบอลยุโรปซีซั่นหน้าก็ได้เข้าไปอยู่ในห้วงความหวังลึกๆของพวกเขาเรียบร้อยแล้ว (เลสเตอร์เป็นเพียงหนึ่งในสองทีมเท่านั้นที่ยังไม่แพ้ใครเลย โดยอีกหนึ่งทีมเป็นแมนฯซิตี้ จ่าฝูงที่เก็บชัยชนะได้ทั้งห้าเกมรวด มี 15 แต้มนำเลสเตอร์อยู่ 4 แต้ม)


73

       ไม่รู้ว่างานนี้ทีมปีศาจแดง แมนฯยูไนเต็ด กลัวน้อยหน้าของทางด้าน หงส์แดง กับสิงโตน้ำเงินครามที่พ่ายแพ้ไปเมื่อวันเสาร์หรือยังไง ในเกมคืนวันอาทิตย์พวกเขาจึงบุกไปพ่ายให้กับหงส์ขาว สวอนซี ซิตี้ ถึงลิเบอร์สเตเดี้ยมชวดเก็บแต้มในแมทการแข่งขันที่สี่เช่นกัน และผลการแข่งขันของพวกเขาเกมนี้ก็ทำให้ในสัปดาห์นี้ทีมใหญ่พ่ายแพ้ไปถึง 3 ทีมด้วยกัน ทั้งๆที่ลงแข่งขันกับทีมที่เล็กกว่าทั้งหมด

       โดยมีเพียงอาร์เซน่อล กับแมนฯซิตี้เท่านั้นที่สามารถเก็บชัยชนะได้ และจะว่าไปหากพิจาณากันที่ฟอร์มการเล่นแล้วก็น่าจะยกให้ซิตี้ทีมเดียวที่สามารถโชว์ฟอร์มได้ดีต่อเนื่อง เพราะทางด้านของอาร์เซน่อลเองแม้ว่าจะเก็บชัยชนะได้ แต่ก็ไม่ใช่ชัยชนะที่มาจากฟอร์มการเล่นที่ดีอะไรเลย เรียกว่าน่าจะเป็นโชคดีซะด้วยซ้ำไป

       ประตูที่พวกเขายิงได้ก็มาจากการสกัดเข้าประตูตัวเองของทางด้าน ฟาบริซิโอ โคลอชชินี่ กองหลังของนิวคาสเซิ่ล

       อย่างไรก็ตามหลังการพ่ายแพ้ของ แมนฯยูไนเต็ด ส่งผลให้อันดับในตารางคะแนนของสามทีมใหญ่ ซึ่งก็คือแมนฯยูไนเต็ด อาร์เซน่อล และลิเวอร์พูลยังคงเกาะกลุ่มกันอยู่แถวๆเดิม โดยอาร์เซน่อลนั้นรั้งอันดับห้า แมนฯยูไนเต็ดรั้งอันดับหก และลิเวอร์พูลอันดับเจ็ด โดยที่มีคะแนนเท่ากันทั้งหมดที่ 7 คะแนน ผลต่างประตูได้เสียก็ลดลั่นกันลงมาทีมละประตู คือ อาร์เซน่อล +1 แมนฯยูไนเต็ด 0 และลิเวอร์พูล -1

       สำหรับไฮไลท์การทำประตูในเกมแมนฯยุไนเต็ดบุกพ่ายหงส์ขาว สวอนซี เป็นทางด้านทีมเยือนแมนฯยูที่ได้ประตูขึ้นนำไปก่อนจากฮวน มานูเอล มาต้า นาทีที่ 48 แอสซิสโดยลุค ชอว์ จากนั้นนาทีที่ 61 ซิกูร์สัน มาแอสซิสให้อังเดร อาร์ยิว ตามตีเสมอให้เจ้าบ้านเป็น 1-1 ต่อด้วยการแซงขึ้นนำอย่างรวดเร็วโดยโกมิสในนาทีที่ 66 ส่วนผลการแข่งขันของอีกคู่ที่เตะในวันเดียวกันเป็นเซาธ์แฮมป์ตันที่เปิดบ้านเอาชนะนอริช ซิตี้ไปได้ขาดลอย 3-0

74

       ดูจะเป็นเรื่องราวอื้อฉาวกันไปใหญ่ซะแล้วสำหรับการเมืองในแวดวงฟุตบอลระดับโลกอย่าง ฟีฟ่า และ ยูฟ่า เพราะหลังจากที่ เซปป์ แบล็ตเตอร์ ตกเป็นข่าวเกี่ยวกับการทุจริตมากมายระหว่างดำรงตำแหน่งประมุขของโลกลูกหนังมาอย่างยาวนาน กระทั่งต้องตัดสินใจลาออกจากตำแหน่ง ทั้งที่ขึ้นรับตำแหน่งประธานฟีฟ่ารอบใหม่ได้ไม่นาน

       ล่าสุดเจ้าตัวออกมาพูดในเชิงแฉตัวของ มิเชล พลาตินี่ ประธานยูฟ่าที่กำลังจะลงชิงชัยในตำแหน่งประธานฟีฟ่าบ้างว่าเขาคนนี้แหละที่ข่มขู่ตัวเองว่าให้ถอนตัวจากการลงชิงชัยตำแหน่งดังกล่าวครั้งล่าสุด

       ทั้งนี้ดังที่ได้กล่าวข้างต้น เซปป์ แบล็ตเตอร์ กับวงการฟุตบอลโลกอย่างฟีฟ่ามีข่าวฉาวออกมาจนทำให้ผู้คนในวงการฟุตบอลออกมากล่าวตำหนิสิ่งต่างๆที่เขาทำมากมาย และหลายคนก็เชื่อมั่นว่าการลงจากตำแหน่งของเขาจะทำให้วงการฟุตบอลเกิดการเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางที่ดีขึ้นแบบที่มันควรจะเป็น

       แต่ถึงกระนั้น แบล็ตเตอร์ ก็ได้ออกมากล่าวผ่านสื่อว่า พลาตินี่ ได้นัดทานอาหารกลางวันกับญาติรุ่นน้องของผม และเขามีการพูดคุยกันด้วย เขาบอกกับน้องผมว่าผมจะต้องถอนตัวออกจากลงสมัครรับเลือกตั้ง ไม่อย่างนั้นแล้วผมจะต้องเข้าคุก

       อย่างไรก็ตาม ทันทีที่สื่อทราบเรื่องก็ได้มีการไปถามเอาความต่อจากตัวของ พลาตินี่ แต่พลาตินี่ปฏิเสธที่จะบอกรายละเอียดการพูดคุยกันครั้งดังกล่าว โดยบอกแต่เพียงว่าแบล็ตเตอร์กำลังพยายามที่จะหาทางเบี่ยงเบนประเด็นฉาวของตนเองก็เท่านั้น

       สำหรับ มิเชล พลาตินี่ ที่จะลงชิงชัยตำแหน่งประมุขฟีฟ่าที่จะมีการเลือกตั้งใหม่กันอีกครั้งในปี 2016 ถือเป็นตัวเต็งที่จะชนะการเลือกตั้ง และได้ขึ้นดำรงตำแหน่งแทนแบล็ตเตอร์ เพราะตลอดระยะเวลาในการดำรงตำแหน่งประธานสหพันธ์ฟุตบอลยุโรป หรือยูฟ่าถือได้ว่าเจ้าตัวทำหน้าที่ได้อย่างดีเสมอมา เรียกว่าไม่ค่อยจะมีข่าวฉาวออกมา แถมยังได้รับคำชมจากผู้คนในวงการฟุตบอลอยู่เรื่อยๆด้วย


75

       แม้ว่า พรีเมียร์ลีก อังกฤษ จะเป็นเวทีฟุตบอลที่ขึ้นชื่อเรื่องความหนัก และความเร็วของเกมการแข่งขันที่มีมากกว่าลีกยอดนิยมอื่นๆ แต่สำหรับทีมปืนโต อาร์เซน่อล หนึ่งทีมใหญ่ประจำลีกแล้วต้องบอกว่าแนวทางการเล่นของพวกเขาขัดแย้งกับความเป็นพรีเมียร์ลีกอย่างสิ้นเชิง เพราะอย่างที่ทราบกันดีว่าพวกเขาเป็นทีมที่เน้นเล่นบอลกับพื้น เน้นการพาสซิ่งบอลไปมากอย่างสวยงาม และทำเกมรูปกันเป็นรูปแบบที่ลื่นไหล และล่าสุดทางเวนเกอร์ก็ออกมากล่าวยอมรับเรื่องนี้ว่าเป็นเช่นนั้นจริง

       แต่กระนั้นก็ชี้ให้เห็นถึงข้อเสียด้วยว่าไอ้การเล่นที่นุ่มนวล และเบาเกินไปของพวกเขา ซึ่งสวนทางกับเกมหนักๆของหลายทีมในพรีเมียร์ลีกนี่แหละที่ทำให้พวกเขาพลาดเก็บแต้มสำคัญๆ เฉกเช่นเกมเปิดซีซั่นเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ที่โดนเวสต์แฮมบุกมาเผาเครื่องถึงเอมิเรต สเตเดี้ยม 2-0

       โดยเวนเกอร์กล่าวกับสื่อว่าผมก็เห็นด้วยนั่นแหละ ถ้าพวกเขาจะบอกว่าเหตุผลที่เราแพ้เกมเมื่อสัปดาห์ที่แล้วเป็นเพราะพวกเราเล่นกันเบาเกินไป ผมคิดว่าบางทีเราอาจมั่นใจเกินไปว่าพวกเราจะชนะได้ คุณจะต้องดูทีมอย่างเวสต์แฮม ยูไนเต็ดด้วย พวกเขาอาจไปไกลกว่าเราพอสมควรแล้วในแง่ของระดับการแข่งขัน เนื่องจากพวกเขาได้ลงเล่นในเกมยูโรป้าลีกมาแล้ว แต่นั่นก็ไม่ใช่ข้อแก้ตัวหรอกนะ สำหรับการเจอพาเลซสัปดาห์นี้เราจะต้องพร้อมกว่าเดิม มันแน่นอนถ้าเรายังไม่พร้อมเหมือนเดิม เรายังคงเป็นแบบสัปดาห์ที่แล้วเราก็ต้องเจอกับเรื่องเดิมๆ

       สำหรับทีมปืนโต อาร์เซน่อล ในซีซั่นนี้ถูกมองว่าเป็นหนึ่งทีมเต็งที่จะได้คว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกไปครอง ด้วยว่าพวกเขานั้นมีขุมกำลังที่ยอดเยี่ยมมากๆเมื่อเทียบกับอื่นๆ โดยเฉพาะในตำแหน่งเกมรุกที่เต็มไปด้วยนักเตะชั้นนำของยุโรป อาทิเช่น ชิรูด์ โอซิล อเล็กซิส กาซอร์ล่า เป็นต้น อีกทั้งช่วงปรีซีซั่นพวกเขาก็โชว์ฟอร์มได้ดีมากด้วย

หน้า: 1 ... 3 4 [5] 6 7 ... 68